รวมสูตรขนมต้อนรับวันคริสมาส

พุยพุย เค้กคริสต์มาส Christmas Layer Cake

เค้กคริสต์มาส Christmas Layer Cake (มิตรผล) อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลคริสต์มาสที่ทุกคนรอคอยแล้วนะค่ะ วันนี้เลยมีเมนูเค้กสุดพิเศษเหมาะกับคริสต์มาสมาฝากกันค่ะ เค้กสูตรนี้จะทำเป็นชั้นสลับสีขาวและสีแดงตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีมและน้ำตาลปั้นเข้ากับธีมคริสต์มาสสุดๆ เลย

สูตรเค้กคริสต์มาส Christmas Layer Cake (มิตรผล)

สำหรับ 6 ชิ้น

เวลาในการทำ 1 ชั่วโมง 30 นาที

วัตถุดิบเค้กคริสต์มาส Christmas Layer Cake (มิตรผล)

1. ผงฟู 2 1/2 ช้อนชา

2. เกลือ 1/2 ช้อนชา

3. แป้งเค้ก 250 กรัม

4. เนยสด ชนิดจืด 240 กรัม

5. น้ำตาลไอซิ่งมิตรผล 180 กรัม

6. น้ำเชื่อมแต่งกลิ่นมิตเต้ กลิ่นสตรอเบอร์รี่ 50 มิลลิลิตร

7. น้ำเชื่อมแต่งกลิ่นมิตเต้ กลิ่นวานิลลา 50 มิลลิลิตร 

8. ไข่ 5 ฟอง

9. วิปปิ้งครีม 300 กรัม

10. ตุ๊กตาน้ำตาลปั้น ตามชอบ

วิธีทำเค้กคริสต์มาส Christmas Layer Cake (มิตรผล)

1. อุ่นเตาที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ไฟบนและไฟล่าง

2. ร่อนแป้ง ผงฟูและเกลือ เข้าด้วยกัน ร่อน 2 ครั้ง พักไว้

3. ตีเนยให้ขึ้นฟูเล็กน้อยและค่อยๆใส่น้ำตาลไอซิ่ง ตีด้วยความเร็วต่ำและกลางจนขึ้นฟู

4. เติมไข่ไก่ทีละฟอง ตีด้วยความเร็วต่ำให้พอเข้ากัน

5. เติมส่วนผสมของแห้งที่ร่อนไว้ ตีต่อจนพอเข้ากัน 

6. แบ่งส่วนผสมของเค้กออกเป็น 2 ส่วนเท่ากัน 

7. ส่วนที่หนึ่งผสมกับน้ำเชื่อมแต่งกลิ่นมิตเต้กลิ่นวานิลลา ตะล่อมให้เข้ากัน พักไว้

8. ส่วนที่สองผสมกับน้ำเชื่อมแต่งกลิ่นมิตเต้กลิ่นสตรอเบอร์รี่ ตะล่อมให้เข้ากัน พักไว้

9. เทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่ปูกระดาษรองอบไว้ รสละ2 พิมพ์ 

10. อบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ไฟบนและล่าง 20-25 นาที แล้วนำออกจากเตาอบ ลอกกระดาษรองอบออก พักให้เย็นบนตะแกรง

11. ปาดเค้กด้านบนที่เป็นส่วนเกินออกให้เค้กได้ระนาบทั้งหมด

12. ตีวิปปิ้งครีมให้ตั้งยอดแข็ง 

13. นำเค้กวางลง 1 ชิ้น ปาดวิปปิ้งครีมระหว่างชั้นแล้วนำเค้กอีกชิ้นวางลงสลับสีกันทำจนครบทั้ง4ชั้น และปาดวิปปิ้งครีมปิดโดยรอบเค้กให้สวยงาม 

14. บีบวิปปิ้งครีมตกแต่งบริเวณขอบเค้กและวางน้ำตาลปั้นตกแต่งด้านบน

Credit : http://www.foodtravel.tv/recfoodShow_Detail.aspx?viewId=3099

ต้นคริสต์มาสช็อกโกแลต Christmas Tree Chocolate Pop

ต้นคริสต์มาสช็อกโกแลต Christmas Tree Chocolate Pop เมนูนี้ทำได้ง่ายมากๆ ใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายและมีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก รับรองว่าต้องถูกใจเด็กๆ แน่นอนค่ะ นอกจากจะทำง่ายและทานอร่อยแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ตกแต่งเค้ก หรือคัพเค้กได้ด้วย

สูตรต้นคริสต์มาสช็อกโกแลต Christmas Tree Chocolate Pop
สำหรับ 10-15 แท่ง
เวลา 15 นาที

วัตถุดิบต้นคริสต์มาสช็อกโกแลต Christmas Tree Chocolate Pop
1.White Chocolate 300 กรัม
2.ขนมปังบิสกิตแบบแท่ง หรือขนมปังขาไก่ 10-15 แท่ง
3.สีผสมอาหาร สีเขียว
4.เกล็ดน้ำตาลสำหรับตกแต่ง

วิธีทำต้นคริสต์มาสช็อกโกแลต Christmas Tree Chocolate Pop
1.ละลายwhite Chocolate ให้เหลวเป็นเนื้อเดียวกัน
2.ใส่สีผสมอาหารสีเขียวจนได้สีที่ต้องการ
3.ใส่ถุงบีบและตัดปลายถุงบีบเล็กน้อย บีบลงบนขนมปังบิสกิตแบบแท่งให้เป็นต้นคริสต์มาส
4.โรยเกล็ดน้ำตาลและรอยัลไอซิ่งลงบนช็อกโกแลตที่บีบให้สวยงาม
5.นำเข้าตู้เย็นให้ช็อกโกแลตเซ็ตตัวประมาณ 5 นาที
6.แกะออกและจัดเสิร์ฟ หรือนำไปตกแต่งบนเค้กหรือคัพเค้กได้ตามต้องการค่ะ

Credit : http://www.foodtravel.tv/recfoodShow_Detail.aspx?viewId=3101

เมอแรงค์ต้นคริสต์มาส Christmas Tree Meringue

เมอแรงค์ต้นคริสต์มาส Christmas Tree Meringue เมอแรงค์ขนมที่หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดี แต่วันนี้เราจะมาเพิ่มไอเดียให้กับเมอแรงค์ของเรากลายเป็นเมอแรงค์ต้นคริสต์มาสสีเขียวที่ทั้งหอม ทั้งหวาน และน่ารักเข้ากันกับเทศกาลคริสต์มาสนี้เลยค่ะ


สูตรเมอแรงค์ต้นคริสต์มาส Christmas Tree Meringue
สำหรับ 10-15 ชิ้น (แล้วแต่ขนาด)
เวลา 2 – 3 ชั่วโมง

วัตถุดิบเมอแรงค์ต้นคริสต์มาส Christmas Tree Meringue
1. ไข่ขาว 100 กรัม
2. น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
3. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 / 4 ช้อนชา
4. เกลือ เล็กน้อย
5. สีผสมอาหาร สีเขียว
6. สีผสมอาหาร สีแดง
7. White Chocolate 100 กรัม

วิธีทำเมอแรงค์ต้นคริสต์มาส Christmas Tree Meringue
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส
2. ตีไข่ขาวด้วยความเร็วต่ำ ให้ขึ้นฟองหยาบ
3. ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์และเกลือเล็กน้อย ตีต่อจนได้ฟองละเอียดขึ้น
4. ค่อยๆใส่น้ำตาลทราย แบ่งใส่ 3-4 ครั้งจนหมด ตีผสมด้วยความเร็วปานกลางจนตั้งยอดอ่อน
5. ใส่สีผสมอาหารลงไป จากนั้นตีต่อจนได้เมอแรงค์ตั้งยอดแข็ง
6. นำเมอแรงค์ที่ได้ใส่ถุงบีบ และใช้หัวบีบเบอร์ 2D หรือ 1M
7. บีบลงบนกระดาษรองอบหรือแผ่นรองอบที่เตรียมไว้บนถาด บีบวนจนได้ขนาดและความสูงที่ต้องการ
8. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง และสามารถเปิดพัดลมกระจายความร้อนได้(ถ้ามี)
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที – 2 ชั่วโมง แล้วแต่ขนาดของเมอแรงค์ที่บีบค่ะ
9. เมื่อเมอแรงค์สุกจะแห้ง เบา และเมื่อลองจับดูจะไม่ติดเหนียวติดมือ ไม่ติดกระดาษรองอบ ปิดไฟเตาอบ และพักเมอแรงค์ให้เย็นสนิทในเตาอบ
10. นำwhite chocolate มาละลายแล้วผสมสีแดงให้ได้สีตามที่ต้องการ
11. ใส่ถุงบีบตัดปลายถุงบีบให้เป็นรูเล็กน้อย บีบเป็นรูปดาวและทิ้งให้ช็อกโกแลตเซ็ตตัวที่อุณหภูมิห้อง หรือแช่ตู้เย็นประมาณ 3-5 นาที
12. นำช็อกโกแลตรูปดาวมาติดบนยอดเมอแรงค์ต้นคริสต์มาส
13. จัดเสิร์ฟหรือเก็บใส่ภาชนะที่สะอาด แห้ง และปิดสนิท (ไม่แช่ตู้เย็นนะคะ)




Credit : http://www.foodtravel.tv/recfoodShow_Detail.aspx?viewId=3102

รวมสูตรขนมน่ารักน่าทาน

เมอแรงค์สายรุ้ง Rainbow Meringue 

เมอแรงค์สายรุ้ง Rainbow Meringue เมอแรงค์เป็นขนมที่เพิ่มมูลค่าให้กับไข่ขาวที่เหลือจากการทำขนมชนิดอื่นๆ แม้ส่วนผสมจะมีน้อยแต่ความอร่อยนั้นไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งเพิ่มสีสันให้เป็นสายรุ้งเข้าไปแล้ว รับรองว่าทานเพลินจนลืมอ้วนกันเลยทีเดียว

สูตรเมอแรงค์สายรุ้ง Rainbow Meringue

สำหรับ 50 ชิ้น

เวลาในการทำ 2 ชั่วโมง 30 นาที

วัตถุดิบเมอแรงค์สายรุ้ง Rainbow Meringue

1. น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย

2. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา

3. ไข่ขาว 3 ฟอง

4. สีผสมอาหาร สีแดง เหลือง ฟ้า 

วิธีทำเมอแรงค์สายรุ้ง Rainbow Meringue

1. ตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงสุดจนเห็นเป็นริ้วๆ

2. ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ตีต่อด้วยความเร็วกลางพอเข้ากัน

3. ค่อยๆใส่น้ำตาลลงไปดีด้วยความเร็วกลางจนน้ำตาลหมด

4. ตีจนตั้งยอดแข็ง เงา และเหนียว

5. แบ่งออกเป็น 3 ถ้วย ผสมสีแดง เหลือง ฟ้า ค่อยๆตะล่อมเบาๆให้สีเข้ากับเนื้อเมอแรงค์

6. วอร์มเตาอบที่ 90 องศาเซลเซียส

7. ตักเมอแรงค์ใส่ถุงบีบสลับสีกันไปเรื่อยๆจนเกือบเต็มถุง

8. บีบเมอแรงค์เป็นขนาดตามต้องการ ไม่ต้องเว้นระยะห่างมากเกินไป

9. นำเข้าอบ 90 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ถ้าครบเวลาเมอแรงค์ยังไม่แห้งให้เพิ่มอีก 30-45 นาที

10. เมื่อเมอแรงค์แห้งแล้วให้ปิดเตาและแง้มฝาเตาไว้เล็กน้อย วางเมอแรงค์ทิ้งไว้ในเตาประมาณ 45 นาที

11. พอครบเวลาแล้วเก็บเมอแรงค์ใส่ขวดโหลหรือกล่องที่ปิดสนิท

Credit : http://www.foodtravel.tv/recfoodShow_Detail.aspx?viewId=2875

วาฟเฟิลสายรุ้ง Rainbow Waffle

วาฟเฟิลสายรุ้ง Rainbow Waffle เปลี่ยนวาฟเฟิลแบบเดิมๆ ให้มีสีสันน่าทานขึ้นด้วยการผสมสีเป็นสายรุ้ง แต่ความกรอบนอกนุ่มในของวาฟเฟิลยังอร่อยเหมือนเดิม จะทานคู่กับวิปปิ้งครีม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ หรือจะราดท็อปปิ้งด้วยซอสสตรอเบอร์รี่ ซอสช็อกโกแลตหรือน้ำผึ้งได้ตามชอบ 

สูตรวาฟเฟิลสายรุ้ง Rainbow Waffle

สำหรับ 4-5 ชิ้น

เวลาในการทำ 30 นาที

วัตถุดิบวาฟเฟิลสายรุ้ง Rainbow Waffle

1. แป้งอเนกประสงค์ 2 1/4 ถ้วย

2. ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา

3. เกลือ 1/4 ช้อนชา

4. น้ำตาล 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

5. ไข่แดง 3 ฟอง

6. ไข่ขาว 3 ฟอง

7. เนยละลาย 3 ช้อนโต๊ะ

8. นม 1 1/2 ถ้วย

9. กลิ่นวานิลลา 1/4 ช้อนชา

10. สีผสมอาหาร สีม่วง, ฟ้า, เขียว, เหลือง, ส้ม, แดง

11. วิปปิ้งครีม, ซอสช็อกโกแลต, เชอร์รี่เชื่อม สำหรับตกแต่ง

วิธีทำวาฟเฟิลสายรุ้ง Rainbow Waffle

1. ร่อนแป้ง เกลือ ผงฟูรวมกัน

2. ผสมนม เนยละลาย กลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกัน

3. ผสมไข่แดงกับน้ำตาลเล็กน้อยพักไว้ 

4. เทส่วนผสม นม เนยละลาย กลิ่นวานิลลาที่ผสมเข้าด้วยกัน ลงในแป้ง เกลือ ผงฟูที่ร่อนไว้ คนให้แป้งละลายไม่เป็นเม็ดและตามด้วยส่วนของไข่แดงกับน้ำตาล พักไว้

5. ตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายที่เหลือให้ขึ้นฟูจนตั้งยอดอ่อน แล้วใส่ในส่วนผสมที่เราพักไว้ 

6. แบ่งใส่ทีละน้อยแล้วตะล่อมเบาๆให้เข้ากัน เสร็จแล้วแบ่งออกเป็น 6 ถ้วย เท่ากัน

7. ผสมสีแต่ละถ้วยด้วยการตะล่อมเบาๆ แล้วใส่ถุงบีบเตรียมไว้

8. นำไปใส่ในพิมพ์วาฟเฟิลโดยเริ่มจากสีม่วงตรงกลาง แล้วค่อยๆใส่เป็นวงกลมไล่ออกมาตามลำดับฟ้า เขียว เหลือง ส้ม แดง อบจนสุก

9. เสิร์ฟพร้อมวิปปิ้งครีม ซอสรสต่างๆ ผลไม้อื่นๆ ตามชอบ

Credit : http://www.foodtravel.tv/recfoodShow_Detail.aspx?viewId=2873

มาการองหมีน้อย Bear Macaron 

มาการองหมีน้อย Bear Macaron มาการองเป็นขนมที่ ทำวันนี้ อร่อยพรุ่งนี้ เพราะการทิ้งไว้ข้ามคืนความชื้นในไส้จะซึมไปที่เปลือกทำให้เปลือกมีความนุ่ม และอร่อยกว่าตอนที่เสร็จใหม่ๆ นุ่นเลยทำมาการองให้มีรูปทรงน่ารักและน่าทานมากขึ้นโดยทำเป็นรูปน้องหมีและใช้ผงโกโก้แทนสีผสมอาหาร ใครที่ชอบน้องหมีไม่ควรพลาดเมนูนี้เลย

สูตรมาการองหมีน้อย Bear Macaron

สำหรับ 24 ชิ้น

เวลาในการทำ 2 ชั่วโมง

วัตถุดิบมาการองหมีน้อย Bear Macaron

1. ไข่ขาว(1) 35 กรัม

2. น้ำตาลทราย 80 กรัม

3. น้ำเปล่า 20 กรัม

4. อัลมอนด์ป่นละเอียด 80 กรัม

5. น้ำตาลไอซิ่ง 80 กรัม

6. ไข่ขาว(2) 35 กรัม

7. ผงโกโก้ 10 กรัม

ส่วนผสมไส้ Mixed berry cream

1. สตอรเบอร์รี่แช่แข็ง 300 กรัม

2. มิกซ์เบอร์รี่แช่แข็ง 500 กรัม

3. น้ำตาลทราย 100 กรัม

4. วิปครีม 120 กรัม

ส่วนผสมสำหรับทำหน้าหมี(royal icing)

1. น้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ

2. วิปครีม 1/2 ช้อนโต๊ะ

3. ผงโกโก้ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำมาการองหมีน้อย Bear Macaron

1. นำอัลมอนด์ป่นละเอียดผสมกับน้ำตาลไอซิ่ง ผงโกโก้ ร่อนรวมกันและใส่ไข่ขาว(2)ลงไป พักไว้

2. นำน้ำตาลและน้ำเปล่าใส่หม้อตั้งไฟกลาง พอเริ่มเดือด ตีไข่ขาว(1)ด้วยความเร็วสูงจนตั้งยอดแข็ง

3. ต้มน้ำตาลจนได้อุณหภูมิ 118 องศาเซลเซียส แล้วค่อยๆเทใส่ข้างๆเมอแรงพร้อมเปิดความเร็วต่ำค่อยๆเทเป็นสายจนหมด

4. ตีต่อจนส่วนผสมอุ่นและตั้งยอดปานกลางค่อนไปทางแข็ง

5. นำเมอแรงค์ที่ได้ไปใส่ในของแห้งที่ร่อนไว้

6. ผสมแบบเร็วและแรงจนเนื้อส่วนผสมมีลักษณะเหมือนลาวา

7. แบ่งใส่สีแล้วนำแต่ละสีใส่ถุงบีบ

8. บีบลงถาดโดยให้มือตั้งฉากกับถาด บีบให้ได้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว และเว้นระยะห่างประมาณ 2 เซนติเมตร

9. พอบีบครบให้จับถาดกระแทกลงบนโต๊ะแรงๆเพื่อไล่ฟองอากาศใหญ่ๆออก 

10. ถ้ามีฟองอากาศด้านบนให้ใช้ไม้จิ้มฟันเขี่ยให้ฟองหายไป

11. วางพักผิวประมาณ 10-20 นาที ให้ผิวมีลักษณะตึงๆ

12. ระหว่างรอพักผิว อุ่นเตาอบที่ 150 องศาเซลเซียส เวลา 15 นาที 

13. เอามาการองเข้าอบโดยวางถาดไว้ตรงกลาง และหาถาดเปล่ามาวางชั้นบนสุดเพื่อไม่ให้หน้าของมาการองไหม้

14. อบประมาณ 10-12 นาที เช็คสุกโดยจับที่ตัวมาการอง ถ้ายังโยกได้แปลว่ายังไม่สุก

15. พอสุกวางพักให้เย็นจึงแกะออกจากถาด

16. ผสมroyal icing โดยนำน้ำตาลไอซิ่งผสมกับวิปครีมให้เข้ากัน แบ่งออกเป็น 3 ถ้วย

17. ผสมสีนำตาลอ่อนและน้ำตาลเข้มด้วยผงโกโก้ คนให้เข้ากัน และใส่ถุงบีบ ตัดปลายถุงเล็กน้อย

18. นำไส้Mixed Berry มาบีบใส่ตรงกลางและประกบกัน

19. ตกแต่งหน้าตาด้วยการบีบroyal icing สีน้ำตาลอ่อนเป็นหูด้านบน บีบสีขาวตรงกลางเป็นจมูก บีบสีน้ำตาลเข้มเป็นตาและบนจมูกสีขาวที่บีบไว้ 

20. นำไปแช่เย็นประมาณ 2ชั่วโมง – 1 คืน แล้วจึงนำมาทาน

วิธีทำ Mix Berry and Cream

1. นําสตอรเบอร์รี่ มิกซ์เบอร์รี่ น้ำตาลทรายใส่หม้อรวมกัน นําขึ้นตั้งไฟกลางจนเดือดคอยคนเรื่อยๆ

2. พอส่วนผสมเดือดเคี่ยวต่อไปด้วยไฟกลางค่อนไปทางอ่อนจนส่วนผสมเหนียวข้น คอยคนเป็นระยะ

3. พอส่วนผสมเหนียวข้นแล้วเทใส่ชาม นําพลาสติกคลุมอาหารปิดคลุมบนตัวแยมและพักไว้จนเย็นสนิท

4. ตีวิปครีมพอให้ตั้งยอดอ่อน

5. นําวิปครีมใส่ลงไปในแยม คนเบาๆให้เข้ากัน

6. นําไปทําเป็นไส้ขนมต่างๆ ได้เลยค่ะ

Credit : http://www.foodtravel.tv/recfoodShow_Detail.aspx?viewId=2934